จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมเพื่อนำเสนอพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก …//…ล่าสุด คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ เตรียมเสนอเอกสารภาษาไทย เพื่อส่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการ ทั้ง 3 ระดับต่อไป
วันนี้(27 เม.ย. 58) ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานประชุมคณะกรรมการในการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช(พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช) เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก ทั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะในประเด็นความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขสนิมที่ปล้องไฉนขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ความคืบหน้าการจัดทำหนังสือ “พระบรมธาตุสู่มรดกโลก” และการตรวจสอบต้นฉบับ Nomination Dossier
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขสนิมที่ปล้องไฉนขององค์พระบรมธาตุเจดีย์นั้น เบื้องต้นทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมปรึกษาหารือร่วมกับกรมศิลปากร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยจะติดตั้งนั่งร้านเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญของกรมศิลปากรขึ้นไปสำรวจหาสาเหตุการเกิดคราบสนิมบริเวณปล้องไฉน ใต้ปลียอดทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างถาวรนั้น ซึ่งจากการประมาณการในการติดตั้งนั่งร้านของสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ต้องใช้งบประมาณ 1,030,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และกรมศิลปากร ซึ่งล่าสุดทางอธิบดีกรมศิลปากรได้อนุมัติงบประมาณในส่วนของกรมศิลปากรแล้ว เป็นเงิน 343,000 บาท ซึ่งจะโอนเงินมาให้สำนักศิลปากรที่ 14 ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ในส่วนของจังหวัดใช้งบกองทุนมรดกโลกซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความเห็นชอบแล้ว และวัดพระมหาธาตุฯ พร้อมโอนเงินไปให้สำนักศิลปากรแล้วเช่นกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ในการหาผู้รับจ้างติดตั้งนั่งร้านต่อไป ซึ่งเมื่อการสำรวจจนทราบสาเหตุของการเกิดคราบสนิมที่ชัดเจนแล้ว ในส่วนของการบูรณะนั้น ทางจังหวัดได้ของบประมาณกลุ่มจังหวัดปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ไว้จำนวน 30 ล้านบาท
ความคืบหน้าการจัดทำหนังสือ “พระบรมธาตุสู่มรดกโลก” ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานกรรมการฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า ขณะนี้คืบหน้ากว่าร้อยละ 80 โดยจะสามารถส่งเอกสารต้นฉบับไปยังโรงพิมพ์เพื่อตีพิมพ์ได้ภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 นี้ ซึ่งสาระสำคัญในหนังสือจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลัก ประกอบด้วย หมวดดินแดนแห่งภาคใต้ ที่เป็นการปูพื้นที่ความเป็นมาและความสำคัญของพระบรมธาตุเจดีย์ หมวดพระธาตุทรงธรรม หมวดคุณค่าที่โดดเด่นเป็นสากล และหมวดที่ว่าด้วย มรดกธรรม สู่มรดกโลก
นอกจากนี้ ความคืบหน้าการจัดทำและการตรวจสอบต้นฉบับ Nomination Dossier นั้น ขณะนี้ได้จัดทำหนังสือในเนื้อหาถึงบทที่ 6 จากจำนวนทั้งสิ้น 9 บท และมีกำหนดจัดส่งไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 หลังจากนั้นจะได้จัดส่งไปยังคณะกรรมการในระดับประเทศเพื่อตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน จำนวน 3 ชุด ก่อนนำเสนอเข้ารับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี ในประมาณต้นเดือนมกราคม 2559 และนำเสนอคณะกรรมการยูเนสโก เพื่อพิจารณาในประมาณปลายเดือนมกราคม 2559 ต่อไป
/////////////////
อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
27 เมษายน 2558