ไก่ ซิงแตก! โมเซสซัดชัย”สิงห์”ฮ็อตเวอร์แซงเฮ 2-1 นำฝูงต่อ

สิงห์ไฮโซ เชลซี ฟอร์มในลีกสุดยอดนับตั้งแต่เปลี่ยนระบบเป็น 3-4-3 ชนะ 7 นัดรวดยิง 17 เสีย 0 บริสุทธิ์มา 690 นาที! เกมนี้กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่คิดมากยืนพื้นตัวจริงชุดเดิมนัดที่ 6 ติดต่อกัน

ไก่เดือยทอง ยังไม่แพ้ใครในลีกก็จริงแต่ฟอร์มหลังอย่างฝืดชนะเกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุดรวมทุกถ้วยโดยออกเสมอถึง 5! เกมนี้รื้อแผนกองหลัง 3 คนที่เคยบุกแบ่งแต้ม อาร์เซน่อล กลับมาใช้และปรับ 3 คนจากเกมกลางสัปดาห์ที่แพ้ โมนาโก ตกรอบบอลยุโรปคือ แยน แฟร์ตองเก้น, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ คริสเตียน เอริคเซ่น แทน แดนนี่ โรส ที่เจ็บและ คีแรน ทริปเปียร์ กับ แฮร์รี่ วิงค์ส ที่ตกเป็นสำรองบ้าง

6′

นึกว่าซิงแตก! เคนล้ำหวดตุง

สเปอร์ส บุกจากซ้ายไปขวาทักทายก่อนจากฟรีคิกกราบขวา คริสเตียน เอริคเซ่น ปั่นโค้งไปหน้าประตูบอลตกใส่ แฮร์รี่ เคน พักแล้วสับไกเผาขนตาข่ายสะเทือน! แต่ไลน์แมนตีธงล้ำหน้าซึ่งจากภาพช้าตัดสินถูกต้องทำให้สถิติสวยหรูของเจ้าบ้านยังคงอยู่

9′

ไก่คึกเว้ย! ไดเออร์มาไง

ช่วง 10 นาทีแรก ไก่เดือยทอง เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าและโอกาสแรกของจริงก็มาจากฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เอริค ไดเออร์ ได้ยิงซะงั้นกดบอลข้ามกำแพงแล้วก็ข้ามคานไปด้วยแต่ไม่ห่างมากถือว่ายิงใช้ได้

11′

3-4-3 ซิงแตก! ไก่ 1-0 เอริคเซ่น ส่องหาย

เจ้าถิ่นยังไม่ทันทำอะไร สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0 ไปแล้ว! ต้องชมตั้งแต่ เดเล่ อัลลี่ พาบอลลุยจากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วดีดมาข้างในให้ เอริคเซ่น จับแล้วซัดไกลด้วยซ้ายไซด์ก้อยหนีมือ ติโบต์ คูร์กตัวส์ ตุงเสาแรกสุดสวย! เหลือเชื่อว่านี่คือลูกแรกของกลางวัย 24 ในลีกซีซั่นนี้! และทำให้ เชลซี ระบบ 3-4-3 เสียประตูแรกจนได้ในนัดที่ 7 ต้องใช้เวลา 701 นาที โดยคนหลังสุดที่ทำได้ก่อน เอริคเซ่น คือ เมซุต โอซิล เกมแพ้ อาร์เซน่อล 0-3 นั่นเอง

26′

เกมถึงตัว! ลุยซ์เหลืองก่อน – มูซ่าตามด

สเปอร์ส มาเพรสซิ่งใส่เจ้าถิ่นอย่างดุดันทำให้มีจังหวะถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อยจน ดาวิด ลุยซ์ รับใบเหลืองคนแรกนาที 19 ข้อหากระแทก เคน จากข้างหลังจนกระเด็น! จากนั้น มูซ่า เด็มเบเล่ โดนบ้างเมื่อดันสูงขึ้นไปตัดเกมรวบ วิคเตอร์ โมเซส คว่ำ

30′

สิงห์เพิ่งมา! โปรยิ้มฟรีคิกเข้าซอง

โอกาสยิงครั้งแรกของ เชลซี มาถึงจนได้จากฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวาค่อนข้างไกลต้องยกให้ ดาวิด ลุยซ์ ซัดบอลติดท็อปสปินข้ามกำแพงแล้วฮุคเข้ากรอบตรงตัว อูโก้ ญอริส ย่อตัวรับ

32′

อลอนโซ่เสียเลย! วอล์คเกอร์กระดกข้ามหัวแล้วยิง

มาร์กอส อลอนโซ่ มีจุดอ่อนตรงความเชื่องช้าและช็อตนี้ถูก ไคล์ วอล์คเกอร์ เปิดแผลกระดกบอลข้ามหัวเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วตามไปจิ้มมุมแคบ คูร์กตัวส์ ยังไวล้มปัดออกหลัง

33′

เคนเต็มหลอดติดติโบต์

ไก่เดือยทอง ปิดตายเกมเจ้าบ้านอยู่หมัดแถมสวนไปได้ลุ้นอีก! บอลถึง เคน หน้าเขตโทษพลิกแล้วอัดด้วยซ้ายสุดพลังบอลพุ่งเร็วจนมองแทบไม่ทันแต่เจ้ากรรมดันตรง คูร์กตัวส์ ปัดไว้

44′

ญอริสเหวอ! แจกบอลให้อาซาร์ส่อง

สเปอร์ส นำและเล่นแจ่มอยู่ดีๆเกือบแพ้ภัยตัวเองแถมต้นตอคือกัปตัน ญอริส เตะโกลคิกเข้าเท้า เอแดน อาซาร์ เฉยเลยเจอปีกเบลเจี้ยนลากสวนกลับมาแล้วซัดไกลเรียดๆ ญอริส แก้ตัวล้มรับทัน

45′

ปล่อยให้ว่างได้ไง! เปโดร ปั่นหาย 1-1

เชลซี มาตีเสมอจนได้เอานาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเมื่อ เปโดร โรดริเกซ รับบอลจาก เนมานย่า มาติช หน้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วทีมเยือนคุมหลวมไม่เข้าบีบปล่อยอดีตหอกบาร์เซโลน่ามีเวลาพลิกเข้าขวาแล้วปั่นโค้งๆอ้อมตัวบล็อกหนีมือ ญอริส เสียบเสาไกลโคตรสวยเหมือนกัน! ลูกที่ 3 ในลีกซีซั่นนี้ของตัวรุกวัย 29

แล้วก็จบครึ่งแรกหลังทดเจ็บนาทีเดียวเสมอกัน 1-1 ทั้งที่ สเปอร์ส อุตส่าห์ทำได้ดีกว่าทั้งครองบอล 53% และโอกาสยิง 10 (4) – 3 (3) ครั้ง

53′

เกิดใหม่จริงๆ! สิงห์ แซง 2-1 โมเซส ยิงโล่งๆ

ต้นครึ่งหลัง เชลซี ลงมาเล่นดีกว่าทักทายจากลูกยิงไกลของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ นาที 48 เข้าซอง ญอริส และจากนั้นอีก 5 นาทีคือประตูนำ 2-1 ผู้มาเยือนสมาธิหลุดอีกครั้งปล่อย ดีเอโก้ คอสต้า ลากบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายถึงสุดเส้นแล้วผ่านเรียดมาเสาสองถวายพาน วิคเตอร์ โมเซส แปโล่งๆแฉลบขา ญอริส เด้งไปชนตัว แยน แฟร์ตองเก้น ตุงตาข่าย! โมเซส ได้เครดิตผู้ทำประตูเลยนับเป็นลูกที่ 3 ในลีกซีซั่นนี้ของเขาไปเลย

55′

อาลอนนนโซ่ววววว์

ทีมเยือนสงสัยเมาหมัดแป๊ปเดียวเกือบถูก เชลซี หนีห่าง! คอสต้า ทำดีอีกครั้งเปลี่ยนมาพาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาบ้างถึงสุดเส้นเหมือนเดิมแล้วตวัดเรียดไปหน้าประตูใส่พาน อลอนโซ่ อัดด้วยขวาข้างไม่ถนัดเบิร์ดข้ามคานซะง้านนนนน

57′

โมเซสเกือบแทนคุณคอสต้า

อาคันตุกะจากนอร์ธ ลอนดอนยังโงหัวไม่ขึ้นปล่อย เชลซี ขย่มสนุกเลยโดย โมเซส เกือบตอบแทน คอสต้า โดยเปิดบอลจากหน้าเขตโทษด้านขวาโรยๆเข้าไปให้หัวหอกทีมชาติสเปนโดดชาร์จไม่ถึงขาดไปอีกนิดเดียวบอลทะลักออกหลัง

65′

เคนเบียดเดฟกระเด็น! เปิดให้เอริคเซ่นยิงไม่ผ่านติโบต์

เจ้าถิ่นกำลังเล่นดีๆดันติดประมาทจ่ายบอลในแดนตัวเองพลาดถูก เคน ฉกไปลากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายใช้ความถึกเบียด เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กระเด็นตกข้างทางแล้วตักบอลไปข้างใน เอริคเซ่น โดดยิงยัดเสาแรกเบาไป คูร์กตัวส์ ปิดมุมรับไม่หลุด

71′

อัลลี่ล้ำมั้ยไม่รู้แต่หลุดยิงแย่

สเปอร์ส ค่อยๆฟื้นกลับมาแล้วก็ได้โอกาสทองเมื่อ เคน แทงให้ อัลลี่ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้ายแต่กดไซด์ก้อยผ่านหน้าต่างเสาแรกออกไปอย่างน่าผิดหวัง! อย่างไรก็ตามไลน์แมนสะบัดธงว่าออฟไซด์แต่จากภาพช้าก้ำกึ่งเหมือนจะไม่ล้ำ

76′

โปรเถื่อนเข็มขัดสั้น!

มาร์กอส อลอนโซ่ สปีดอาจจะค่อนข้างเต่าแต่ประสิทธิภาพหายห่วงโชว์การเออร์ลี่ ครอสบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายโค้งข้ามหัวกองหลังทีมเยือนมาถึง คอสต้า หน้าประตูอย่างแม่นยำแต่เจ้าตัวคงคาดไม่ถึงเลยไม่พร้อมกระแทกบอลหลุดกรอบออกไป

83′

พอชปรับแผน คอนเต้ปรับตัว

ก่อนหน้านี้ สเปอร์ส เปลี่ยน 2 คนแรก แฮร์รี่ วิงค์ส กับ จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู แทน ซน ฮึง-มิน และ เดเล่ อัลลี่ นาที 65 กับ 73 ตามลำดับปรับการยืนตำแหน่ง! ส่วน เชลซี ไล่เปลี่ยนตามจุดเติมความสดเริ่มจาก วิลเลี่ยน แทน อาซาร์ นาที 77, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แทน โมเซส นาที 81 และ ออสการ์ แทน เปโดร นาที 83! แล้ว ไก่เดือยทอง ก็ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย วินเซนต์ แยนส์เซ่น แทน เด็มเบเล่

86′

นั่นไงโปรโขก! เอ็นคูดูขุดบ่อแหวกยิงตรงคูร์กตัวส์

จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู ลงมาเติมความวูบวาบฝั่งซ้ายให้ สเปอร์ส ประจวบเหมาะเจ้าบ้านมี อิวาโนวิช ยืนแบ็คขวาแทนปล่อยปีกดาวรุ่งกระดกบอลข้ามหัวดื้อๆเข้าไปกระชากผ่าน แกรี่ เคฮิลล์ ถึงเขตโทษแล้วกดมุมแคบ คูร์กตัวส์ ยืนดีอีกรับหายห่วง

90′

วิลเลี่ยนสนิมขึ้น! ไม่เป็นไร สิงห์ เอาอยู่ได้เฮ

นาทีสุดท้าย เชลซี ลุ้นฝังจากจังหวะสวน คอสต้า พาบอลไต่พื้นที่กราบซ้ายถึงริมเขตโทษแล้วปาดมาเสาแรก วิลเลี่ยน โฉบไปยิงเหน่งๆแต่ตู้มข้ามคานออกไปหมดลุ้น

จากนั้นช่วงทดเจ็บ เชลซี จอดรถบัสรักษาสกอร์แล้วก็ทำสำเร็จจบเกมเฉือนชนะ สเปอร์ส สุดมันส์ 2-1!!!

เครดิต : http://www.soccersuck.com/